ดิจิทัลทิปส์

โอม จงเงย!! สังคมก้มหน้า ยุคที่สมาร์ทโฟนเป็นปัจจัยที่ 5 ในชีวิต การรับรู้ข่าวสารและการติดต่อสื่อสารเป็นสิ่งจำเป็นแต่บางครั้งอะไรที่มากเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี! วันนี้ TOT fiber 2U มี 10 วิธีมาแนะนำแก้อาการติดจอ ชีวิตติดโซเชียลเรื่องไม่เล็กที่ทุกคนควรรู้!


ในยุคที่โซเชียลมีเดียมีบทบาทเพิ่มมากขึ้น คุณเป็นอีกคนหรือไม่ที่รู้สึกกังวลเมื่อห่างจากโทรศัพท์ ต้องคอยส่องโซเชียลแม้ไม่มีเรื่องด่วนเข้ามา ว่างปุ๊บเป็นต้องจับโทรศัพท์มาสไลด์ ใช้เวลาคุยกับคนในโลกออนไลน์มากกว่าคุยกับคนรอบข้าง หรือรู้สึกว้าวุ่นเมื่อแบตหมด นี่คือพฤติกรรมที่บ่งบอกว่าคุณกำลังติดโซเชียลมีเดียมากเกินไป หากเกิดการใช้งานที่มากเกินความพอดีแบบนี้ เราขอแนะนำให้คุณลดโซเชียลด้วย 10 วิธีง่าย ๆ  ที่แบบนี้แหละกำลังพอดี





1. โหลดแอปพลิเคชัน รู้ได้เลยว่าใช้มือถือนานแค่ไหน

แก้อาการเสพติดมือถือ ด้วยการใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์สิ ลองโหลดแอปเช็คการใช้งานแต่ละวัน เช่น แอป ATracker Time Tracker, RescueTime, Forest - Stay focused หรือฟีเจอร์ในแอปที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน Facebook, YouTube, และ Instagram ตรวจสอบการใช้งานโซเชียลแล้ว มาสำรวจตัวเองสักนิดว่าใช้มือถือมากแค่ไหน พอได้รู้แล้วบางทีเราอาจจะอยากเล่นให้น้อยลงก็ได้นะ





2. ตั้งค่าโทรศัพท์ ปิดการแจ้งเตือน Notification บ้าง

สำหรับคนที่รู้สึกว่าต้องตอบโซเชียลทันที ลองปรับการตั้งค่าโทรศัพท์ให้แจ้งเตือนเฉพาะสายเรียกเข้าและข้อความสำคัญ (สำหรับเคสที่ไม่ได้มีงานเร่งด่วนเข้ามานะ) พอเรามีเวลาว่าง ก็มานั่งทบทวนหรือไล่ย้อนดูทีหลังได้ เชื่อสิ...ว่าโลกโซเชียลรอได้





3. ระหว่างมื้อ เอามือถือใส่กระเป๋า

เล่นโทรศัพท์ระหว่างมื้ออาหาร ทำให้เราไม่มีสมาธิกับการกิน เคยรู้สึกไหมว่ากินยังไงก็ยังไม่อิ่ม ลองปรับพฤติกรรมใหม่ในการเคี้ยวอาหารให้ละเอียด เอนจอยกับอาหารให้เต็มที่ดีกว่านะ





4. ปลอดภัยไว้ก่อน งดใช้โทรศัพท์ตอนขับรถ

เมื่อขึ้นรถคุณต้องเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถือไว้ หรือต้องเอาโทรศัพท์ออกมาวางให้เห็นชัดๆ เพื่อกดเล่นจนลืมมองสิ่งรอบข้าง ใครติดนิสัยแบบนี้ ต้องรีบเลิกด่วนๆ เพราะนอกจากจะผิดกฎหมายแล้วยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้โดยไม่รู้ตัว





5.  เล่นมือถือดึกๆ ระวังโทรม งดมือถือ 1 ชั่วโมงก่อนนอน

ชอบเล่นโทรศัพท์จนดึกบ่อยๆ แล้วหลับไม่สนิทอยู่ใช่ไหม ลองปรับช่วงเวลาผ่อนคลายก่อนนอนแทนการเล่นมือถือ เพื่อให้เราได้เข้านอนในเวลาที่เหมาะสม แล้วอย่าใจอ่อนเอามือถือมาไว้บนเตียงเชียวล่ะ ถ้าไม่อยากสูญเสียเวลาการนอนอันมีค่าไป





6. ใช้นาฬิกาปลุก แทนโทรศัพท์

ข้อนี้สำหรับคนที่ต้องพึ่งนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์ เพื่อให้การตื่นนอนที่ดีขึ้น เป็นเช้าวันใหม่ที่มีสมาธิ ลองเปลี่ยนมาใช้นาฬิกาปลุกดูสิ ปลุกแล้วตื่นเลยโดยไม่ต้องงัวเงียคอยต่อเวลากด Snooze ไปเรื่อยๆ





7. จัดเวลาให้ถูก  กำหนดเวลาที่จะใช้โซเชียล

เพราะคนเรามีเวลาเท่ากัน แต่อยู่ที่ว่าเราจะใช้จัดสรรเวลาอย่างไร ดังนั้น ลองพักสายตาบ้างแล้วจัดระเบียบเวลาใหม่ เลือกรับแต่ข่าวสารที่จำเป็น เริ่มตั้งเป้าจากวันละนิด ค่อยๆ ลดเวลาในการเล่นมือถือลงไปเรื่อยๆ ให้เหลือสักวันละ 2-3 ชั่วโมง





8. มองหน้าจอให้น้อยลง หันมาใส่ใจคนข้าง ๆ ใช้เวลากับโลกความจริงให้มากขึ้น

Disconnect to Connect ถึงเวลาที่ควรจะหยุดและสรรหากิจกรรมที่น่าสนใจอย่างอื่นทำบ้าง เพราะส่วนใหญ่เรามักจะหยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นแก้เบื่อ ลองออกไปหาสิ่งใหม่ๆ ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ได้ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปจากเดิมๆ ที่คุณอยู่ทุกวัน อาจทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจจนลืมโลกโซเชียลไปได้บ้าง





9. ออกไปเล่นกีฬา ให้อะไรได้มากกว่าความแข็งแรง

กิจกรรมง่ายๆ แบบนี้แหละที่หลายคนมองข้าม ลดการใช้งานจากโซเชียลให้น้อยลง หันมาสร้างแรงจูงใจให้ตัวเองไปออกกำลังกาย นอกจากจะได้สุขภาพดีแล้ว ยังได้ฟิตแอนด์เฟิร์มพร้อมหุ่นดีๆ กลับมา





10. โฟกัสและให้ความสำคัญกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

อย่าให้โซเชียลมาดึงสมาธิจากการทำงานไปได้ ถ้าเวลาทำงานหรือแม้แต่พักผ่อน คุณต้องเอาโทรศัพท์มาวางไว้ข้างๆ ควรเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าไปก่อน แล้วให้เวลากับสิ่งที่ต้องทำ

สุดท้ายโซเชียลมีเดียมีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากติดโซเชียลมากไปจะส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกหลายอย่าง เล่นโซเชียลมีเดียอย่างสร้างสรรค์ให้มีความพอดี สุขภาพร่างกายและจิตใจก็จะได้พักผ่อนตามไปด้วย