[TOT]COVER32_Mobile_InsideBanner
SME-tips

ข้อดี vs ข้อเสียของโฮมออฟฟิศที่ติดรถไฟฟ้า
การนั่งติดจอคอมพิวเตอร์ในบรรยากาศที่จำเจดูเหมือนจะไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป เมื่อรูปแบบการทำงานของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไปจากเดิม

การนั่งติดจอคอมพิวเตอร์ในบรรยากาศที่จำเจดูเหมือนจะไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป เมื่อรูปแบบการทำงานของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไปจากเดิม หลายธุรกิจจึงเปลี่ยนจากการเช่าสำนักงาน มามองหาโฮมออฟฟิศสักที่ที่ยืดหยุ่น และเหมาะสมมากพอกับไลฟ์สไตล์ในการทำงาน

ทำไมต้องโฮมออฟฟิศ

ข้อดี vs ข้อเสียของโฮมออฟฟิศที่ติดรถไฟฟ้า
มองผิวเผินแล้วโฮมออฟฟิศอาจจะมีลักษณะภายนอกคล้าย ๆ กันกับทาวน์โฮม แต่หากดูที่รายละเอียดจะเห็นว่าการออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในนั้นค่อนข้างต่างกัน สำหรับโฮมออฟฟิศนั้นจะมีการแบ่งสัดส่วนพื้นที่สำหรับทำงานกับพื้นที่สำหรับอยู่อาศัยไว้อย่างชัดเจน โดยพื้นที่ในส่วนโฮมออฟฟิศนั้นจะมีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยน ดัดแปลง หรือตกแต่งเพิ่มได้ตลอดเวลา

นอกจากพื้นที่ใช้สอยที่ควรให้ความสนใจแล้ว การเลือกทำเลที่ตั้งก็เป็นส่วนท่ีต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งทำเลที่ได้รับความสนใจ และถูกจับตามองเป็นอันดับต้น ๆ ก็คงหนีไม่พ้นทำเลที่อยู่ติดสายรถไฟฟ้า เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจให้กับใครที่กำลังมองหาโฮมออฟฟิศที่ตอบโจทย์ธุรกิจสักที่ เรามาดูกันดีกว่าว่าโฮมออฟฟิศติดรถไฟฟ้านั้นมีข้อดี ข้อเสียอย่างไรบ้าง

Home Office ติดรถไฟฟ้ามีข้อดีข้อเสียอย่างไร

ข้อดี vs ข้อเสียของโฮมออฟฟิศที่ติดรถไฟฟ้า

ข้อดี

  • เดินทางสะดวก
    • ข้อดีอันดับแรกของทำเลที่มีศักยภาพยิ่งเป็นโฮมออฟฟิศที่อยู่ติดรถไฟฟ้าด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ เดินทางได้ง่าย และสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถคาดคะเนเวลาในการเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งได้ดีกว่าการขับรถที่เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบนท้องถนนบ้าง เมื่อการเดินทางสะดวกพนักงานก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการมาสาย จึงสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น เจ้าของธุรกิจก็สามารถเดินทางไปพบลูกค้าได้อย่างคล่องตัว
  • ช่วยลดต้นทุนในการเดินทาง
    • การมีโฮมออฟฟิศที่เป็นทั้งที่ทำงานและบ้านไปในตัวนั้นมีผลดีกับเจ้าของธุรกิจ ทำให้ไม่ต้องเสียงเงินสองต่อในการเช่าออฟฟิศและซื้อที่อยู่อาศัย อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนในการเดินทางไปกลับระหว่างออฟฟิศกับที่พัก และยังสามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้ง่าย ๆ ไม่ต้องเสียค่าเดินทางหลายต่ออีกด้วย
  • สิ่งอำนวยความสะดวกครบ
    • นอกจากความสะดวกสบายในเรื่องการเดินทางแล้วโฮมออฟฟิศติดรถไฟฟ้ายังมีสาธารณูปโภคที่ครบครันไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงระบบขนส่งมวลชน ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล แหล่งของกิน รวมถึงยังมีระบบความปลอดภัยที่รัดกุมและได้มาตรฐาน
  • เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
    • สำหรับโฮมออฟฟิศติดรถไฟฟ้านอกจากจะสะดวกสบายประหยัดเวลาและมีสาธารณูปโภคที่ครบครันแล้ว ที่ดินในย่านนี้ยังมีความต้องการสูง จึงทำให้มีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าวันนึงจะต้องทำการขยายธุรกิจออกไปหรือมีการย้ายโฮมออฟฟิศก็ยังสามารถทำกำไรโดยการปล่อยเช่าหรือขายเพื่อทำกำไรต่อได้

ข้อเสีย

  • ราคาสูง
    • เป็นที่รู้กันดีว่าการเลือกโฮมออฟฟิศในทำเลทองที่ติดให้ไฟฟ้านั้นแม้จะมีความสะดวกสบายในเรื่องการเดินทางและสาธารณูปโภคต่างๆ แต่ที่ดินบริเวณนี้มักมีราคาที่สูงมากจึงทำให้หลายธุรกิจ ที่สายป่านไม่ยาวพอต้องคิดหนักในการเลือกทำเลนี้
  • หายซื้อหรือเช่ายาก ตัวเลือกน้อย
    • ทำเลทองติดรถไฟฟ้าแบบนี้ส่วนใหญ่แล้วจะถูกนำไปสร้างเป็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่เสียมากกว่าเพราะคุ้มค่ากับราคาและการใช้ประโยชน์ของที่ดินมากกว่า ดังนั้นจึงมีตัวเลือกสำหรับอาคารที่จะนำมาใช้หรือดัดแปลงเป็นโฮมออฟฟิศ ค่อนข้างน้อย การจะหาซื้อหรือเช่าจึงเป็นไปได้ยากกว่าทำเลที่ไม่ติดรถไฟฟ้านั่นเอง
  • ขยายพื้นที่ลำบาก
    • เนื่องจากความหนาแน่นอย่างมากของอาคารบริเวณที่ติดรถไฟฟ้าส่งผลให้พื้นที่นั้นมีอยู่อย่างจำกัด จึงทำให้โฮมออฟฟิศที่อยู่ติดรถไฟฟ้านั้น มีพื้นที่ใช้สอยที่ไม่ค่อยยืดหยุ่นมากนัก ด้วยการขยายพื้นที่ก็ทำได้ค่อนข้างลำบาก จึงอาจจะไม่เหมาะกับธุรกิจบางประเภท ที่จำเป็นต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่หรือมีการขยายธุรกิจที่ค่อนข้างเร็ว
  • มีพื้นที่จอดรถน้อย
    • อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่าโฮมออฟฟิศติดรถไฟฟ้านั้นมีข้อดีคือสามารถเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายแต่ในขณะเดียวกันเนื่องจากพื้นที่มีจำกัดและราคาที่ค่อนข้างสูงจึงทำให้โฮมออฟฟิศหนึ่งหลังสามารถจอดรถได้เพียงหนึ่งถึงสองคันเท่านั้น หรือบางที่ที่อยู่ติดถนนใหญ่อาจจะไม่มีที่สำหรับจอดรถเลย ทำให้เจ้าของธุรกิจอาจจะจำเป็นต้องเช่าที่เพิ่มเติมสำหรับจอดรถและอาจทำให้ลูกค้าที่จำเป็นต้องเดินทางมาโดยใช้รถส่วนตัวรู้สึกไม่สะดวกสบายเท่าที่ควร

อยากได้ Home Office ติดรถไฟฟ้า แบบถูกและดีควรเลือกที่ไหน

ข้อดี vs ข้อเสียของโฮมออฟฟิศที่ติดรถไฟฟ้า
หลายคนที่มองหาทำเลสำหรับธุรกิจหรือทำโฮมออฟฟิศคงจะเลือกมองทำเล CBD (Central Business District) ไว้เป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากเป็นแหล่งศูนย์กลางของธุรกิจ สามารถเข้าถึงความสะดวกสบายได้ทั้ง ปัจจัยโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภคที่ครบถ้วน และรอบด้าน รวมถึงมีเส้นทางขนส่งมวลชนการคมนาคม การขนส่งสาธารณะที่สะดวก ครอบคลุม อยู่ใจกลางเมือง ใกล้กับทางห้างสรรพสินค้า และแหล่งธุรกิจ รวมถึงแหล่งการค้าต่างต่างๆ ซึ่งพื้นที่  CBD ในกรุงเทพมหานครที่เป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่ ทำเลย่านสีลม สาธร ถนนวิทยุ เพลินจิต หรือย่านสุขุมวิทเป็นต้น แต่หลังจากความเจริญในด้านธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ช่วงหลังๆ ในย่านนี้ค่อนข้างแออัด มีราคาที่ดินสูง และมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด จึงไม่เหมาะกับการทำโฮมออฟฟิศเท่าไหร่นัก

แล้วถ้าอยากได้โฮมออฟฟิศติดรถไฟฟ้าแบบถูกและดีควรเลือกที่ไหน? เรารวบรวมข้อมูลมาให้ เพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจ ให้คุณได้โฮมออฟฟิศที่สะดวกสบาย ในราคาที่คุณพอใจ

New CBD คือคำตอบ

ข้อดี vs ข้อเสียของโฮมออฟฟิศที่ติดรถไฟฟ้า
New CBD คือพื้นที่ศูนย์กลางทางธุรกิจแห่งใหม่ที่มีสาธารณูปโภคครบถ้วน สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย แต่ที่ดินยังมีราคาไม่สูง และมีพื้นที่ไม่แออัดมากเท่าพื้นที่ CBD เดิม ซึ่งพื้นที่ New CBD ที่น่าจับตามองคงหนีไม่พ้นพื้นที่โซนรัชดาพระรามเก้า และลาดพร้าว ที่มีศักยภาพของทำเลที่น่าสนใจ เนื่องด้วยมีเส้นทางการเดินรถและขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าและใต้ดินที่ครบครัน ใกล้ห้างสรรพสินค้า รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มากเพียงพอกับการทำงานและอยู่อาศัย

แต่หากธุรกิจไหนที่ต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่ ยืดหยุ่นต่อการขยายตัวของธุรกิจ เดินทางสะดวก ติดรถไฟฟ้า ในราคาไม่สูง และไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้ศูนย์กลางธุรกิจมากนัก เราแนะนำให้เลือกดูโฮมออฟฟิศในโซนชานเมืองอย่างเพชรเกษม วงเวียนใหญ่ ท่าพระ หรือบางซื่อ ก็ดูน่าสนใจ สะดวกสบาย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานในรูปแบบโฮมออฟฟิศได้ดีไม่แพ้กัน